Page 24 - Journal 8

3 ไม่มีการกำาหนด้ หรือ ไม่ได้�ทำบทำวน 6 ผู้้�สอนรอไม่นานพื่อหลิ้งจากถามคำาถาม
ground rule ก่อนเริ�มคาบเรียน
ก่อนเริ�มคาบเรียนควรมีการตักลีงบทบาท หลีักจากได้ยินคำาถึาม ผิ้้เรียนตั้องพื่ยายามทำาความ
เข้้าใจป็ระเด็นที�ถึาม ป็ระมวลีความร้้ที�มี แลีะเรียบเรียง
ข้องผิ้้สอนแลีะผิ้้เรียน กำาหนดพื่ฤตัิกรรมที�ตั้องการให้ คำาตัอบเป็็นคำาพื่้ด กระบวนการเหลี่านี�เป็็นความท้าทาย
เกิดข้ึ�นระหว่างคาบเรียน เช้่น การเริ�มแลีะเลีิกกิจกรรม ข้องผิ้้เรียนที�ตั้องใช้้เวลีาในการคิด ผิ้้สอนจึงควรรออย่าง
ตัรงเวลีา การใช้้เคร่�องม่อส่�อสาร การช้่วยกันตัอบ น้อย 10 วินาที หลีังจากถึามคำาถึาม หร่อรอจนกว่าผิ้้เรียน
คำาถึาม การฟัง การจดบันทึกความค่บหน้าข้องกลีุ่ม ส่วนใหญ่แสดงออกให้ทราบว่าพื่ร้อมที�จะตัอบคำาถึาม
นอกจากนี� ควรกำาหนดพื่ฤตัิกรรมที�ไม่ส่งเสริมการเรียนร้้ ก่อนที�ผิ้้สอนจะระบุผิ้้ที�ควรตัอบคำาถึามข้้อนั�น ๆ ตั่อไป็
ข้องกลีุ่ม เช้่น การพื่้ดคุยนอกป็ระเด็น เป็็นตั้น การ
ตักลีง ground rules ร่วมกันระหว่างผิ้้สอนแลีะผิ้้เรียน
จะช้่วยให้การจัดการเรียนการสอนในคาบเรียนเกิด
ป็ระโยช้น์ส้งสุดตั่อการเรียนร้้ข้องผิ้้เรียน 7 ผู้้�สอนปลิ่อยให�ผู้้�เรียนบางคน
ตุ้อบคำาถามเกือบทำ้กข�อ

ในกิจกรรมกลีุ่ม เป็็นเร่�องป็กตัิที�จะมี dominant
4 ผู้้�สอนใช้�เวลิาพื่้ด้มากกว่าให�ผู้้�เรียนพื่้ด้ learner แลีะ silent learner หร่อแม้แตั่มีผิ้้เรียนที�เข้้า
ร่วมกิจกรรมโดยไม่พื่ยายามร่วมกระบวนคิดเพื่ราะร้้ว่า
ผิ้้เรียนอาจใช้้เวลีานานกว่าจะเริ�มตัอบคำาถึาม จะมีคนอ่�นตัอบ หร่อ อาจารย์ก็จะเฉลียคำาตัอบเอง
หร่อ คำาตัอบที�ได้ไม่เป็็นที�พื่อใจข้องผิ้้สอน ทำาให้บางครั�ง ทำาให้บางครั�งผิ้้สอนให้ความสนใจ dominant learner
ผิ้้สอนเป็ลีี�ยนบทบาทจาก facilitator เป็็น instructor เป็็นพื่ิเศึษเพื่ราะช้่วยให้กระบวนการสอนดำาเนินไป็ตัาม
เพื่่�อให้ข้้อม้ลีกับผิ้้เรียนได้ครบตัามวัตัถึุป็ระสงค์ อย่างไร ที�ออกแบบไว้ แตั่ข้้อเสียที�เกิดข้ึ�นค่อ โอกาสในการเรียน
ก็ตัาม คาบเรียนที�ถึ้กออกแบบให้สอนด้วยวิธี facilitation ร้้ข้องสมาช้ิกกลีุ่มคนอ่�น ๆ จะลีดลีงหร่อไม่เกิดข้ึ�น
เป็็นคาบเรียนที�ไม่ได้เน้นเน่�อหาที�เป็็นความจำา จึงไม่ควรมี ผิ้้สอนจึงควรใช้้เทคนิคการถึามคำาถึามที�ช้่วยกระจาย
เน่�อหาที�มากเกินไป็ควรเน้นป็ระเด็นการเรียนร้้ระดับส้ง ให้ทุกคนในกลีุ่มได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนร้้ เช้่น
หร่อทัศึนคตัิที�สำาคัญ เพื่ียง 1 หร่อ 2 ป็ระเด็นในเวลีา หลีังจากถึามคำาถึามแลีะให้เวลีาคิดแลี้ว ให้กำาหนดคนที�
ป็ระมาณ 1 ช้ั�วโมง เพื่่�อให้ผิ้้เรียนทุกคนในกลีุ่มได้มีโอกาส ตั้องตัอบแตั่ลีะคำาถึามแลีะกระจายให้ทุกคนได้ตัอบ
แสดงความคิดเห็น แลีะ ช้่วยกันสรุป็บทเรียนที�ได้ โดย คำาถึามที�เตัรียมมา นอกจากนี� ในแตั่ลีะคำาถึามควรเป็ิด
facilitator จะได้ไม่ตั้องกังวลีเกี�ยวกับข้้อจำากัดข้องเวลีา โอกาสให้มีผิ้้ตัอบอย่างน้อยสองคน จะเป็็นการกระตัุ้น
มากเกินไป็ ให้นักศึึกษาตั้องคิดแลีะตัั�งใจฟังคำาตัอบเพื่ราะตันเองก็
อาจจะยังตั้องเป็็นผิ้้ตัอบคำาถึามนั�น ๆ

5 ผู้้�สอนใช้�คำาถามกำากวม หรือ
ถามทำีลิะหลิายคำาถาม
หนึ�งในสาเหตัุหลีักที�ผิ้้เรียนไม่สามารถึตัอบ 8 ผู้้�สอนปลิ่อยให�ผู้้�เรียนบางคนหลิ้ด้ออกไป
คำาถึามได้ ค่อ การไม่เข้้าใจคำาถึาม โดยมักเกิดจากความ จากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลิ้่ม
ไม่ช้ัดเจนข้องคำาถึาม หร่อ การที�ผิ้้สอนถึามทีลีะหลีาย ๆ สำาหรับ silent learner ผิ้้สอนอาจมอบหมายหน้าที�
คำาถึาม ดังนั�น ผิ้้สอนควรเตัรียมคำาถึามที�เหมาะสม เฉพื่าะ เช้่น ให้เป็็นผิ้้จดบันทึกความค่บหน้าข้องกิจกรรม
กับระดับข้องผิ้้เรียน แลีะวัตัถึุป็ระสงค์ข้องคาบเรียน กลีุ่ม หร่อ เป็็นผิ้้สรุป็สิ�งที�สมาช้ิกในกลีุ่มได้ตัอบคำาถึามมา
ผิ้้สอนสามารถึลีองใช้้คำาถึามนั�นๆ กับเพื่่�อนอาจารย์ จะช้่วยให้ silent leaner มีความมั�นใจมากข้ึ�นแลีะกลี้าที�
โดยเฉพื่าะผิ้้ที�ไม่ได้เป็็นผิ้้เช้ี�ยวช้าญในเร่�องนั�นๆ อาจจะ จะมีส่วนร่วมในกระบวนการกลีุ่มมากช้ึ�นตั่อไป็
สามารถึช้่วยในการป็รับคำาถึามให้ช้ัดเจนข้ึ�นได้

22