Page 31 - Journal 10
P. 31
กี่าร้ฝึกี่ฝน (practice) เป็นการแสด้งถึงความ
พยายามที�จะพัฒนาตนเองอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด้ๆ
ในบรรด้าแนวทางการฝึึกฝึนทักษะต่างๆ พบว่าการฝึึกฝึนที�จะ
ชี่่วยส่งเสริม grit มากที�สุด้จะเป็นการฝึึกฝึนทักษะตามแนวทาง
deliberate practice ซึ่ึ�งประกอบไปด้้วย การกำาหนด้เป้าหมาย
ที�จะฝึึกที�ชี่ัด้เจน แบ่งทักษะที�จะฝึึกด้ังกล่าวออกเป็นทักษะ ควัามหวััง (hope) เป็นทัศึนคติในแง่บวกที�เชี่้�อว่า
ย่อยๆ แล้วฝึึกฝึนทีละทักษะ ฝึึกฝึนในระด้ับความยากง่ายที� หากตั�งใจพัฒนาตนเองต่อไป ในที�สุด้ก็จะประสบความสำาเร็จ
เหมาะสม ในอัตราที�ไม่เร่งรีบเกินไป ร่วมกับการได้้รับข้อม้ล การที�บุคคลใด้จะประสบความสำาเร็จที�เป็นเป้าหมายชี่ีวิตใน
feedback จากอาจารย์อย่างต่อเน้�อง การได้้ฝึึกฝึนตามแนวทาง ระยะยาวได้้นั�น ต้องเจออุปสรรคแน่นอน คุณสมบัติที�สำาคัญของ
ของ deliberate practice นอกจากจะชี่่วยให้นักศึึกษาพัฒนา คนที�จะมุมานะฝึ่าฟันอุปสรรคต่างๆไปได้้นั�นค้อเม้�อล้มแล้วต้อง
ทักษะได้้อย่างรวด้เร็วแล้ว ยังทำาให้นักศึึกษามีความอด้ทน ลุกขึ�นย้นใหม่ได้้ ต้องไม่ล้มเลิกความพยายาม แต่การที�คนคน
พยายามที�จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเน้�องด้้วย บทบาทหน้าที�ของ หนึ�งจะพยายามต่อต้องวางอย้่บนพ้�นฐานของทัศึนคติที�ด้ี
คร้แพทย์ค้อ การออกแบบการฝึึกทักษะต่างๆให้นักศึึกษาได้้ (optimism) ด้้วย หากผู้้้ใด้มองโลกในแง่ลบ มีความเชี่้�อว่าถึง
ฝึึกฝึนอย่างเหมาะสม และให้ข้อม้ล feedback อย่างต่อเน้�อง พยายามไปก็ไม่มีทางสำาเร็จได้้ ผู้้้นั�นก็จะล้มเลิกความพยายาม
อย่างรวด้เร็ว จากงานวิจัยของ Carol Dweck แสด้งให้เห็นว่าผู้้้
เรียนมีมุมมองต่อความสามารถของตนได้้สองแนวทางค้อ (1)
fixed mindset ค้อคนที�เชี่้�อว่าไม่ว่าจะพยายามอย่างไร ความร้้
ความสามารถของเขาก็จะเท่าเด้ิม กับ (2) growth mindset ค้อ
คนที�เชี่้�อว่าหากพยายามมากขึ�น ความร้้ ความสามารถก็มี
โอกาสจะพัฒนาขึ�นได้้อีก ผู้้้ที�มีความมุมานะส้ง จะมีลักษณะของ
growth mindset ซึ่ึ�งจากงานวิจัยของ Carol Dweck แสด้งให้
เห็นว่าผู้้้ที�มี growth mindset จะสามารถพัฒนาความสามารถ
หร้อระด้ับสติปัญญาของเขาให้ด้ีขึ�นได้้ด้ีกว่ากลุ่ม fixed mindset
กี่าร้มีเป็้าหมาย่ (purpose) เป็นองค์ประกอบสำาคัญ แนวทางการส่งเสริมทัศึนคติแง่บวก ทำาให้ผู้้้เรียนมีความหวัง
ของความมีใจรัก (passion) โด้ยเป้าหมายในที�นี�หมายถึงเจตนา ทำาได้้โด้ย (1) สร้างความเข้าใจที�ถ้กต้องเกี�ยวกับ ความสามารถ
ที�จะทำาประโยชี่น์ให้แก่ผู้้้อ้�น นอกเหน้อไปจากแค่ประโยชี่น์หร้อ ในการพัฒนาระด้ับความสามารถของตนเองในผู้้้ที�มี growth
ความพอใจส่วนตัว ผู้้้ที�มีความมุมานะส้ง มักจะต้องการเห็นว่า mindset (2) การเปิด้โอกาสให้นักศึึกษาได้้ฝึึกพัฒนาทักษะใน
สิ�งที�ตนตั�งใจทำานั�นเป็นสิ�งที�สำาคัญ สร้างประโยชี่น์ให้แก่สังคม การพ้ด้ให้กำาลังใจตนเอง และ (3) จัด้ประสบการณ์เรียนร้้ให้
ได้้มาก จะว่าไปแล้ววิชี่าแพทย์จัด้ว่ามีข้อได้้เปรียบในด้้านนี� ผู้้้เรียนได้้รับความชี่่วยเหล้ออย่างเหมาะสม เม้�อผู้้้เรียนเจอ
การทำาหน้าที�ของแพทย์สามารถส่งผู้ลด้ีให้แก่ผู้้้อ้�น และสังคมได้้ อุปสรรค
ค่อนข้างชี่ัด้เจน จึงเป็นเหตุให้มีแพทย์จำานวนมากที�ยินด้ีอด้หลับ
อด้นอน ทำางานหามรุ่งหามคำ�า เพ้�อรักษาพยาบาลผู้้้อ้�น คร้แพทย์ ผูู้้น่พนธี์หวัังวั่าแนวัทางกี่าร้พัฒนา Grit จากี่ทั�งสี�
ที�ต้องการสร้าง purpose ให้แก่นักศึึกษาแพทย์สามารถใชี่้การ องค์ป็ร้ะกี่อบข้้างต่้นนี� จะช่่วัย่ให้อาจาร้ย่์แพทย่์วัางแผู้นกี่าร้
เล่าเร้�องราวของแพทย์ที�ทำาประโยชี่น์แก่ผู้้้ป่วย แก่สังคม หร้อ จัดูป็ร้ะสบกี่าร้ณ์์เร้ีย่นรู้้ในโร้งเร้ีย่นแพทย่์ให้เอ้�อต่่อกี่าร้ที�
ชี่ักชี่วนนักศึึกษาให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมที�เขาได้้เห็นว่าการมีความร้้ นักี่ศูึกี่ษาแพทย่์และแพทย่์ป็ร้ะจำาบ้านจะมีกี่าร้พัฒนา Grit
และทักษะทางการแพทย์สามารถทำาคุณประโยชี่น์ สร้างความ ทำาให้โร้งเร้ีย่นเป็็นมากี่กี่วั่าสถูานที�ให้ควัามรู้้ แต่่ย่ังเป็็นสถูาน
เปลี�ยนแปลงในทางที�ด้ีให้แก่คนอ้�นได้้ เชี่่น ไปออกหน่วยแพทย์ ที�สร้้างควัามมุมานะให้แกี่่ผูู้้เร้ีย่นทุกี่ร้ะดูับดู้วัย่ ซึ่ึ�งจะเป็็นผู้ลดูี
อาสา ไปเป็นแพทย์ประจำาหน่วยฉีด้วัคซึ่ีน เป็นต้น ต่่อกี่าร้บร้ร้ลุเป็้าหมาย่ข้องช่ีวั่ต่ข้องผูู้้เร้ีย่นในร้ะย่ะย่าวั
29