Page 45 - Journal 4_2021

3 ข้อสาม ค้อ เพ้�อเป็นข้อม้ลิแก่คร้แลิะผู้้้บัริห้าร ผู้้�กำาหนด โดยพบวิ่าไม่สามารถึใช่�การคำำานวิณ์ทางสถึิติใด
รายวัิช่าห้ร้อห้ลิักส้ติร ใช่�มาทดแทนได� ผู้้�สอนส่วินใหญ่มักใช่�ตาม Bloom คำ้อ
80-90% ของคำะแนนที�ได�จัากเคำร้�องม้อประเมินผู้ลัหร้อ
โดยบุคำคำลัากรกลัุ่มนี�สามารถึนำาเกรดของ ข�อสอบ วิิธิีนี�เหมาะสำาหรับการประเมินวิ่าผู้้�เรียนบรรลัุ

ผู้้�เรียนไปใช่�ประโยช่น์หลัายประการ เช่่น การจััดกลัุ่ม วิัตถึุประสงคำ์การเรียนร้�ได�มากน�อยเพียงใด มีประโยช่น์
ผู้้�เรียนให�สอดคำลั�องกับวิิธิีการเรียนการสอน ผู้้�เรียนที�เกรด ทั�งต่อผู้้�เรียน คำ้อ ทำาให�เห็นเป้าหมายการเรียนช่ัดเจันวิ่า
ส้งอาจัสามารถึส่งเสริมให�เรียนหร้อฝ่ึกฝ่นทักษะขั�นส้ง ต�องพัฒนาตนเองอย่างไร เท่าใดจัึงจัะได�เกรดดี แลัะผู้้�สอน
ต่อไป ผู้้�เรียนที�เกรดน�อยอาจัต�องการการติวิเพิ�ม เป็นต�น มีแนวิโน�มจัะสอนให�ตรงวิัตถึุประสงคำ์การเรียนร้�ยิ�งขึ�น
ในช่ั�นปีหนึ�งๆที�ต�องมีการแบ่งกลัุ่มย่อย คำวิรให�ในแต่ลัะ ด�วิยวิิธิีนี�ผู้้�เรียนทุกคำนมีโอกาสเท่าเทียมกันที�จัะได�เกรดส้ง
กลัุ่มนั�นมีการคำลัะกันของผู้้�เรียนจัากหลัายระดับเพ้�อช่่วิย หากสามารถึพัฒนาตนเองได�ถึึงเกณ์ฑ์์ จัึงเป็นสิ�งส่งเสริม
สร�างสมดุลัในช่ั�นเรียน เป็นต�น นอกจัากนี�ลัำาดับของเกรด ให�ผู้้�เรียนในช่ั�นช่่วิยเหลั้อกันในการเรียนเพ้�อให�ได�เกรด
จัะช่่วิยในการคำัดเลั้อกผู้้�เรียนเพ้�อรับรางวิัลัหร้อเข�า ส้ง ๆ กันถึ�วินหน�า คำุณ์ลัักษณ์ะสำาคำัญของเคำร้�องม้อ
รับตำาแหน่งหน�าที�ที�มีจัำานวินจัำากัดได� สำาหรับในภาพรวิม วิัดผู้ลัที�จัำาเป็นต�องมีเพ้�อนำามาตัดเกรดด�วิยวิิธิีนี�คำ้อ

ของรายวิิช่าหร้อหลัักส้ตรผู้ลัการเรียนของผู้้�เรียนจัะ content validity นั�นคำ้อต�องทำาให�มีเน้�อหาที�ตรงกับ
ช่่วิยสะท�อนประสิทธิิภาพการเรียนการสอนซึ่ึ�งเป็นข�อม้ลั วิัตถึุประสงคำ์การเรียนร้� แลัะมีการกระจัายตาม table of
ช่ิ�นหนึ�งที�ใช่�ในการประกันคำุณ์ภาพแลัะพัฒนาต่อไป specification อย่างเหมาะสม สิ�งสำาคำัญในการพิจัารณ์า
ตัดเกรดตามเกณ์ฑ์์ คำ้อ เม้�อได�กำาหนดแลั�วิวิ่าผู้้�เรียน
เน้�องจัากเกรดเป็นการสรุปผู้ลัของสัมฤทธิิผู้ลัหร้อ ต�องบรรลัุวิัตถึุประสงคำ์ด�านใดบ�าง เป็นสัดส่วินเท่าใดของ
สมรรถึนะผู้้�เรียนในวิิช่านั�นๆ ที�มาของเกรดจัึงคำวิรเกิดจัาก รายวิิช่านั�น คำวิรต�องมีเกณ์ฑ์์ผู้่านของแต่ลัะด�านอย่าง
การรวิบรวิมหลัักฐานการเรียนร้�ที�หลัากหลัาย โดยผู้่าน ช่ัดเจัน แลัะกำาหนดให�ผู้้�เรียนต�องผู้่านเกณ์ฑ์์ที�ตั�งไวิ�ทุกด�าน
การประเมินผู้ลัที�เที�ยงตรงแลัะสอดคำลั�องกับวิัตถึุประสงคำ์ ที�ตั�งไวิ� ไม่คำวิรอนุญาตให�นำาคำะแนนที�ได�จัากการบรรลัุ
การเรียนร้� มีการจััดสัดส่วินคำะแนนของหลัักฐานแต่ลัะช่ิ�น วิัตถึุประสงคำ์ข�อหนึ�งไปช่ดเช่ยคำะแนนที�ขาดหายไปของ
อย่างเหมาะสม แลัะทำาการรวิมคำะแนนด�วิยวิิธิีที�เหมาะสม วิัตถึุประสงคำ์อีกข�อหนึ�งได� เน้�องจัากผู้้�เรียนที�มีคำวิามสนใจั
เช่่น การใช่�คำะแนนมาตรฐาน การพิจัารณ์าโดยคำณ์ะ เพียงด�านใดด�านหนึ�งจัะมุ่งพัฒนาตนเองแต่เพียงด�านนั�น
กรรมการ เป็นต�น วิิธิีการตัดเกรดทำาได� 2 วิิธิีหลััก ได�แก่ โดยไม่มีคำวิามตั�งใจัที�จัะพัฒนาตนเองด�านอ้�นเท่าที�คำวิร

กี่าร้ติัดเกี่ร้ดโดย่อ่งเกี่ณฑ์์ แลัะ กี่าร้ติัดเกี่ร้ดโดย่อ่งกี่ลุ่ม แนวิปฏิิบัตินี�นับวิ่าสอดคำลั�องไปกับการศึึกษาแบบมุ่งเน�น
ผู้ลัลััพธิ์การเรียนร้� (outcome-based education) ซึ่ึ�ง

กี่าร้ติัดเกี่ร้ดโดย่อ่งเกี่ณฑ์์ ช่่วิยให�ผู้้�เรียนมีคำุณ์ลัักษณ์ะคำรบถึ�วินตามวิัตถึุประสงคำ์ของ
(criterion-reference grading, standards grading หลัักส้ตรด�วิย
หร้้อ absolute grading)

เป็นการวิัดสมรรถึนะผู้้�เรียนโดยใช่�หลัักเกณ์ฑ์์
ภายนอกคำ้อวิัตถึุประสงคำ์ทางการศึึกษาเป็นจัุดเทียบ ตัวิเลัข
วิ่าหากผู้้�เรียนแสดงคำวิามสามารถึได�ร�อยลัะเท่าใดของ
วิัตถึุประสงคำ์ทั�งหมดจัึงจัะถึ้อวิ่า “มีสมรรถึนะดี” หร้อ

“มีคำวิามร้�ดี” นั�น ตัวิเลัขที�นำามาใช่�เป็นเกณ์ฑ์์วิัดนี�เกิดจัาก
การพิจัารณ์าอย่างรอบคำอบของคำณ์ะผู้้�สอนที�มีคำวิามเป็น
ม้ออาช่ีพด�านการเรียนการสอนแลัะประเมินผู้ลัเป็น
42