การวิจัยเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างองค์ความรู้และการสร้างนวัตกรรม การวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการวิจัยที่เน้นกระบวนการค้นหาความเป็นจริง หลักการทฤษฎี องค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง ศึกษาความเปลี่ยนแปลงของตัวแปรในการทดลองที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไข หรือสถานการณ์ที่ได้รับการควบคุมอย่างรัดกุม เพื่อศึกษาว่าเงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่จัดขึ้นนั้นเป็นสาเหตุที่แท้จริงของผล หรือปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นหรือไม่ โดยจะใช้วิธีการสังเกตเปรียบเทียบความแตกต่างของตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาพปกติกับที่เกิดขึ้นในสภาพที่ได้รับการควบคุมตาม เงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นความจริงต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการอธิบาย ทำนาย และควบคุมได้

          การออกแบบการวิจัยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นการกำหนดรูปแบบหรือวิธีการแสวงหาคำตอบตามวัตถุประสงค์ของแต่ละงานวิจัย หากผู้วิจัยสามารถออกแบบการวิจัยได้ดี สามารถหาคำตอบตามวัตถุประสงค์ตามการวิจัยได้อย่างชัดเจน กระบวนการต่างๆ ในการวิจัยย่อมเป็นไปได้อย่างราบรื่น เที่ยงตรง และถูกต้อง

          ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดโครงการออกแบบวิจัยเชิงทดลองในการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อให้บุคลากรคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้ที่ต้องการทำวิจัยเชิงทดลองมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยเชิงทดลอง และสามารถออกแบบงานวิจัยที่ตอบวัตถุประสงค์ของงานวิจัย กระทั่งได้ผลลัพธ์ที่สามารถนำไปใช้พัฒนางานได้ต่อไป

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรม

       1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยเชิงทดลองในการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ
       2. สามารถออกแบบงานวิจัยได้

             เป็นการบรรยายความรู้และทดลองปฏิบัติโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับหลักการพื้นฐานของวิจัยเชิงปริมาณ, หลักการสำคัญในการวิจัยเชิงทดลอง, รูปแบบการวิจัยเชิงทดลองในการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ และประเด็นจริยธรรมการวิจัยในคนสำหรับการวิจัยเชิงทดลอง

           กิจกรรมบรรยายทางวิชาการและฝึกปฏิบัติ จำนวน 1 วัน โดยวิทยากรเป็นบุคลากรภายในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น G คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ผู้เข้าอบรมเป็นอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาภายในและภายนอกคณะฯ จำนวน 40 คน