รุ่นที่ 1 วันที่ 3 - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ณ ห้องประชุมสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช
รุ่นที่ 2 วันที่ 10 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ณ ห้องประชุมชั้น 12 ตึก SiMR
เป้าหมายในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา คือ กระบวนการเรียนการสอนและการหล่อหลอมให้นักศึกษาที่เข้ามาเรียนและสำเร็จตามหลักสูตรภายในระยะเวลาที่กำหนดอย่างมีความสุข เป็นบัณฑิตตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามที่กำหนด พร้อมที่จะประกอบวิชาชีพ และมีความก้าวหน้าในอนาคต
การเรียนแพทยศาสตร์เป็นการเรียนที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากวิชาชีพอื่นๆ การจะผลิตบัณฑิตแพทย์ให้สมบูรณ์นั้น นอกจากหลักสูตรที่ดี สถานที่และอุปกรณ์ที่ทันสมัย การอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ของสถานที่เรียนแล้ว ระบบการดูแลนักศึกษาแพทย์ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา บทบาทการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของครูแพทย์เป็นหน้าที่ที่นอกเหนือจากความเป็นแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย นอกเหนือจากการเป็นอาจารย์ที่สอนเนื้อหาทางวิชาการ แต่เป็นเหมือนพ่อแม่ที่ต้องดูแลลูก เนื่องจากนักศึกษาแพทย์มาจากพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน ความคิดและลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างกัน และระหว่างเรียนต้องพบเจอกับปัญหาเรื่องต่างๆ มากมาย เช่น เรื่องเรียน เรื่องการปฏิบัติงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องเพื่อน เรื่องความรัก ฯลฯ ดังนั้น อาจารย์ที่ปรึกษามีหน้าที่ต้องเข้ามาดูแล ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และช่วยแก้ไขปัญหา เพื่อให้พวกเขามีทักษะในการใช้ชีวิต ทักษะทางสังคม และสำเร็จการศึกษาตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงการเป็นแพทย์ที่สมบูรณ์ แต่ในปัจจุบันอาจารย์แพทย์ส่วนใหญ่ยังมีประสบการณ์ในการดูแลนักศึกษาแพทย์น้อย ยังเข้าไม่ถึงปัญหาที่นักศึกษาแพทย์ประสบ และขาดแนวทางในการช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับนักศึกษาแพทย์
จากความสำคัญดังกล่าว พบว่า อาจารย์ที่ปรึกษาจะทำหน้าที่ได้ดีนั้นจำเป็นต้องมีทักษะที่สำคัญหลายประการ ดังนั้น ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงเห็นควรจัดอบรมเชิงปฏิบัติ เรื่อง Coaching and mentoring roles of medical teachers ให้แก่อาจารย์ภายในคณะฯ และอาจารย์แพทย์ภายนอก ได้แก่ โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลร่วมสอน และศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก เพื่อให้ความรู้และสามารถพัฒนาทักษะการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาได้ต่อไป
1.ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงทางกรอบความคิด ความคาดหวังต่อการศึกษาและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของกลุ่มที่เกิดจากช่องว่างระหว่างวัยได้ (generation gap)
2.อธิบายการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์แบบพันธมิตรด้านการศึกษา (educational alliance) ระหว่างอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้เรียนได้
3.แสดงทักษะการฟังอย่างตั้งใจ และทำความเข้าใจปัญหาของผู้เรียนได้ถูกต้อง รวมทั้งการรับมือกับอารมณ์ของผู้เรียนเมื่อผู้เรียนได้ตามหลักการและเหมาะสมกับสถานการณ์
4.ประยุกต์ใช้หลักการ coaching และ mentoring ใน ด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาของผู้เรียน
5.แสดงทักษะการนำการสะท้อนคิด (reflection) และให้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) แก่ผู้เรียนในด้านความรู้ พฤติกรรม และเจตคติได้
6.แสดงทักษะการให้กำลังใจและการให้คำแนะนำเชิงบวกแก่ผู้เรียนได้
7.สามารถระบุได้เมื่อจำเป็นต้องส่งผู้เรียนเข้ารับบริการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม และให้รายละเอียดขั้นตอนของการดำเนินการได้เป็นการบรรยายความรู้โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับเป็นการบรรยายความรู้เกี่ยวกับทักษะที่สำคัญของการเป็น coach และ mentor, เทคนิคและเคล็ดลับในการ coach และ mentor นักศึกษาแพทย์ รวมถึงการทำความรู้จักกับนักศึกษาแพทย์ในยุคปัจจุบัน และเมื่อนักศึกษามีปัญหาจะต้องทำอย่างไร
กิจกรรมบรรยายทางวิชาการ จำนวน 2 วัน ซึ่งจะจัดทั้งหมด 2 รุ่น ในวันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2566 และ 10 – 11 สิงหาคม 2566 ณ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยวิทยากรเป็นคณาจารย์จากภายในและภายนอกคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นการบรรยายความรู้เกี่ยวกับทักษะที่สำคัญ และเทคนิคในการ coach และ mentor นักศึกษาแพทย์ โดยการจัดกิจกรรมกลุ่มย่อยให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้เรียนรู้ร่วมกัน
ผู้เข้ารับการอบรมเป็นอาจารย์ จากภายในคณะฯ จำนวน 50 ท่าน/รุ่น