27 - 28 เมษายน พ.ศ. 2566
ห้อง 3A01 ชั้น 3A อาคารศรีสวรินทิรา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
การวิจัยทางการศึกษาถือว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาการเรียนการสอนซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่มุ่งเน้นให้มีการบูรณาการกระบวนการวิจัยในกระบวนการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องนอกจากจะเป็นอาจารย์สายวิชาการที่ทำหน้าที่สอนแล้วนั้น บุคลากรสายสนับสนุนก็ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร และการวิจัยทางการศึกษา สำหรับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีบุคลากรสายสนับสนุนจำนวนมาก ทั้งสังกัดฝ่ายการศึกษา ภาควิชา สถาน และโรงเรียนต่างๆ ซึ่งหากบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับการพัฒนาศักยภาพของตนเองในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ทางด้านการวิจัยทางการศึกษา ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะส่งเสริมให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลบรรลุเป้าหมายการศึกษาตามที่ได้กำหนดไว้ และมีความแข็งแกร่งทางด้านแพทยศาสตรศึกษาเหมาะสมกับการเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งแรกของประเทศไทย
จากความสำคัญดังกล่าว ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ฝ่ายการศึกษา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงเห็นสมควรจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “เทคนิคการเขียนโครงร่างวิจัยทางการศึกษาวิทยาศาสตร์สุขภาพ” ในระหว่างวันที่ 27 – 28 เมษายน 2566 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจและสามารถเขียนโครงร่างของงานวิจัยให้ตรงประเด็นและดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ ทั้งยังได้ลงมือปฏิบัติในกิจกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
- เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเขียนโครงร่างของงานวิจัยให้ตรงประเด็นและดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้
- เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเลือกทฤษฎีการศึกษาให้ตรงกับงานวิจัยได้อย่างเหมาะสม
เป็นการบรรยายความรู้โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับการเขียนโครงร่างงานวิจัยในหัวข้อต่างๆ ให้เป็นที่สนใจและตรงประเด็น โดยการจัดกิจกรรมจะเป็นการเล่าประสยการณ์ ยกตัวอย่างและให้ผู้เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติ
กิจกรรมบรรยายทางวิชาการและฝึกปฏิบัติ จำนวน 2 วัน โดยวิทยากรเป็นคณาจารย์จากภายในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในวันที่ 27 – 28 เมษายน 2566 ณ ห้องบรรยาย 3A01 ชั้น 3A อาคารศรีสวรินทิรา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ผู้เข้ารับการอบรมเป็นอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาทั้งภายในและภายนอกคณะฯ จำนวน 40 ท่าน